ฟอร์ดตอกย้ำความแกร่งดุดันของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ในกิจกรรม ‘King of Tough’ ปิดท้ายสนามในประเทศ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ด้วยยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 170 คน
ฟอร์ด ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จของกิจกรรม ‘King of Tough’ พาลูกค้าพิสูจน์สมรรถนะความ ‘แกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์’ ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
รถกระบะออฟโรดทรงพลังที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร ณ สนามสุราษฎร์ธานี มอเตอร์สปอร์ต จังหวัด สุราษฎร์ธานี เมื่อเร็วๆ นี้
ส่งท้ายความดุดันสนามสุดท้ายในประเทศไทยก่อนไปพิชิตเส้นทางออฟโรดในดินแดนลาวใต้และเวียดนาม พร้อมประกาศความสำเร็จของกิจกรรมด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 900 คน จากทั้ง 3 สนาม
ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และล่าสุดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ฟอร์ดจัดกิจกรรม ‘King of Tough’ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงบนสนามออฟโรดที่เต็มไปด้วยความท้าทายหลากหลายรูปแบบเพื่อโชว์ศักยภาพของรถอย่างเต็มพิกัด
กิจกรรม ‘King of Tough’ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นการจัดกิจกรรมในสนามทดสอบสนามที่ 3
หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจากทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้า ณ จังหวัดชลบุรี และเชียงใหม่
นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “กิจกรรม ‘King of Tough’ นับเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า และผู้ที่สนใจได้สัมผัสถึงความแกร่ง ดุดัน
และสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดขั้นสูงซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์”
ฟอร์ด จัดเตรียมสนามทดสอบไว้ 2 สนาม สนามแรกมีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสเอกลักษณ์และโหมดการขับขี่ออฟโรดอันดุดันและชาญฉลาดของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
เริ่มออกสตาร์ทการขับขี่ผ่านเส้นทางที่เป็นร่องสลับด้วยโหมดบาฮาอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถจะปรับเข้าสู่การขับขี่โดยใช้เกียร์สูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H)
คันเร่งจะปรับให้มีการตอบสนองสูงสุดเพื่ออัตราเร่งที่ดีที่สุด ระบบท่อไอเสียและช่วงล่างจะถูกปรับให้เป็นบาฮาโหมดเช่นกัน เพื่อตอบสนองการขับขี่ออฟโรดแบบความเร็วสูง
ต่อด้วยการขับขี่ในเส้นทางโคลนลื่นด้วยโหมดโคลน/ร่อง โดยใช้เกียร์ต่ำขับเคลื่อน 4 ล้อ (4L) ระบบจะปรับการตอบสนองของคันเร่งให้เหมาะสม ลดความไวของคันเร่งลง
ระบบดิฟล็อกหลังจะเปิดทำงานอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในขณะที่ล้อจะหมุนอย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดดินโคลนที่ดอกยาง ทำให้รถขับผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นผู้ขับขี่จะได้ขับขี่ผจญภัยในเส้นทางวิบากรายล้อมด้วยแนวต้นไม้ ขับขี่ผ่านเนินชันและหลุมสลับโดยในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีดิฟล็อกหน้าที่ผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งานเพิ่มเติม
เพื่อให้การขับผ่านอุปสรรคทำได้ง่ายขึ้น ต่อด้วยการทดสอบใช้ฟีเจอร์ Trail Control ซึ่งเปรียบเสมือนระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรดใช้ในการไต่ขึ้นและลงทางลาดชัน
พร้อมด้วยการใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศาช่วยให้มองเห็นด้านนอกตัวรถเพื่อขึ้นและลงเนินที่มีความชันกว่า 25 องศา ทำให้ผู้ขับขี่ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย
นอกจากการขับในสนามทดสอบแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับการแข่งขันรายการ‘King of Tough Challenge’ ในสนามที่ได้รับการออกแบบพิเศษให้มีระยะทางรวม 2 กิโลเมตร
ด้วยเส้นทางการขับที่ให้ความสนุกและท้าทายไปอีกระดับ ให้ผู้ขับขี่ได้แสดงฝีมือในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
การขับผ่านเนิน และทางโค้งรูปตัวเอส เฟ้นหาลูกค้าและเพื่อนคู่หูที่ทำเวลาได้ใกล้เคียงกับเวลาที่กำหนดมากที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนไปตะลุยเส้นทางพิเศษ
และสัมผัสประสบการณ์สุดแกร่งอีกขั้นกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในลาวใต้และทะเลทรายมุยเน่ ประเทศเวียดนามช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
พิเศษสุดสำหรับสนามปิดท้ายของกิจกรรม King of Tough ผู้เข้าร่วมงานยังมีโอกาสสัมผัสความตื่นเต้นกับกิจกรรมการขับขี่แบบ Drag Race Challenge
ด้วยการขับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล วี 6 ในการแข่งขันสุดพิเศษที่ชัยชนะจะตัดสินด้วยความแม่นยำในการทำเวลาเข้าเส้นชัยให้ใกล้เคียงกับเวลาที่กำหนดมากที่สุด (Bracket 17 sec.)
โดยผู้ชนะอันดับที่ 1และ 2 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ
“ฟอร์ด ประเทศไทย ได้จัดเตรียมทริปสุดพิเศษเพื่อปิดท้ายกิจกรรม ‘King of Tough’
สำหรับลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์และสื่อมวลชนด้วยการขับรถแบบคาราวานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ‘The Overland Journey’
ตะลุยเส้นทางออฟโรดในลาวใต้และพิชิตทะเลทรายมุยเน่ ประเทศเวียดนาม ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจในการใช้งานรถฟอร์ด เพื่อครองใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน” นายรัฐการ กล่าวเสริม