.jpg?v=57)
Toyota Fortuner เจ้าบัลลังก์ King Of PPV
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยมร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียรริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ้ง จำกัด โดน ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุขและ นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญกุล หัวหน้าวิศกรระดับภูมิภาค ทำพิธีเปิดตัว รถอเนกประสงค์ยอดฮิตของโลก Toyota Fotuner ใหม่เมื่อวันที่ 26สิงหาคมที่ผ่านมา การแนะนำ ฟอร์จูเนอร์เข้าสู่ตลาดครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่มีอย่างต่อเนื่อง และยาวนานจากปี 2548 เป็นต้นมา
โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ เกิดขึ้นครั้งแรกด้วยนโยบายการย้ายฐานการผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นสู่ไทย ภายใต้โครงการ IMV อันย่อมาจาก Innovation International Multi Purpose Vehicle ซึ่งเริ่มจาก กระบะ 1 ตัน รุ่น Hilux เป็นรุ่นแรก ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีรถHilux Vigo เป็นรถที่ครองความนิยมคนไทยเป็นอันดับหนึ่งทันที ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า พลังที่มากกว่า และการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพถนนที่เหมาะกับเมืองไทยมากกว่า ความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ มีการวิจัยและพัฒนาต่อยอดรถกระบะให้กลายเป็นรถแบบตรวจการณ์ หรือ รถอเนกประสงค์ ซึ่งขณะนั้นเมืองไทยมีความต้องการรถดังกล่าวอย่างมาก ทำให้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค (T-map ) เดินหน้า พัฒนากระบะรุ่น Hilux Vigo ให้กลายเป็นรถอเนประสงค์หรือ PPV หรือ Pick-up Passenger Vehicle ออกมาเป็นครั้งแรกในปี 2548 ด้วยชื่อ Toyota Fortuner
การเปิดตัวรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน คุ้มค่าที่สุด ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นกว่ารถอื่นๆในตลาด ความอเนกประสงค์การใช้งานที่หลากหลาย ทำให้ ฟอร์จูเนอร์ เป็นรถที่ขายดีที่สุดในไทยอย่างต่อเนื่อง จวบจนถึงปัจจุบัน โตโยต้าฟอร์จูเนอร์ ผ่านการพิสูจน์ตัวเองด้วยการเปิดรถอเนกประสงค์ขวัญใจมหาชน ด้วยการมีจอดจำหน่ายสูงถึง 380,000 คัน ได้รับรางวัลที่ยืนยันคุณภาพมากมาย
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัว โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ ใหม่ ในครั้งนี้ว่า นับเป็นความภูมิใจของโตโยต้าที่ตลอดเวลาการเดินทางของ ฟอร์จูเนอร์ ที่ผ่านมาได้สร้างควาสำเร็จอย่างมากมาย โดยเฉพาะตัวเลขจำนวนการขายสูงสุดต่อเนื่องถึง 9 ปีติดต่อกัน ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหนื่อชั้นของรถรุ่นนี้ เริ่มจากดีไซน์ที่โดดเด่น คุณภาพการผลิตอันเป็นมาตรฐาน, ตลอดจนชั่งก์ชั่นการใช้งานและมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และด้วยการปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งๆขึ้นไป จึงเชื่อว่า ฟอร์จูเนอร์ ใหม่ รุ่นที่เปิดตัวนี้จะสามารถครองความเป็นผู้นำปีที่ 10 ติดต่อกันและพิสูจน์ได้ว่า ฟอร์จูเนอร์ คือ เจต้าแห่งรถกระบะดัดแปลง หรือ King Of PPVตัวจริง
ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า จากการที่ได้รับทั้งคำติ และคำชม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ถูกรวบรวมกลายเป็นข้อมูล มาเพื่อใช้ในการปรับปรุงสิ่งต่างๆ กลายเป็นการพัฒนารถยนต์ฟอร์จูเนอร์ที่ดียิ่งขึ้น เช่นการเพิ่มระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยก ซ้าย และขวา ออกจากกันอย่างอิสระ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น , เพิ่มกล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor สำหรับรุ่น V เพื่อเพิ่มวัสัยทัศน์ ความปลอดภายการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงในรุ่น Legenderมีการเสริมระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง หรือ Blind Spot Monitor, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ หรือ Rear Cross Traffic Alet เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้ มีการปรับระบบรองกันการกระแทกใหม่ เปลี่ยน โช๊คแอพซอบเบอร์ใหม่เป็นแบบ โมโน ทูป เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานในเมืองได้อย่างนุ่มนวล ในการใช้งานบนถนนในเมือง และขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน ทั้งในการเดินทางท่องเที่ยวของถนนระหว่างเมือง ในวันหยุดพักผ่อนโดยสามารถไปทั้งครอบครัวด้วยความสุข สบาย ทุกที่นั่งในรถคันนี้
Fortuner GR SPORT
โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ จัดเป็นรุ่นท็อปสุดของ ฟอร์จูเนอร์ ทำให้รถคันนี้มีความพิเศษหลากหลายด้านตั้งแต่ดีไซน์ที่โดดเด่นสวยงาม ไปจนถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายและความปลอดภัยในคันเดียวกัน นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้รายละเอียดของ ฟอร์จูเนอร์ GR SPORT ว่า “ รถคันนี้ ได้รับการพัฒนา ด้วยการเอาความรู้ด้านเทคนิคและประสบการณ์ จากที่ โตโยต้า ได้เข้าร่วมการทดสอบสมรรถนะยานยนต์ในสนามแข่งขันทั่วโลก ผ่านแบรนด์รถแข่งระดับโลกอย่าง TOYOTA GAZOO RACING ทำ Fortuner GR SPORT เป็นสุดยอดยนตรกรรมแห่งความเป็นผู้นำตามแบบฉบับแบรนด์รถแข่ง TOYOTA GAZOO RACING ที่ให้คุณสามารถปลอดปล่อยจิตวิญญาณความสปอร์ตไปสู่การขับขี่ ผมเชื่อว่า ฟอร์จูเนอร์ GR SPORT จะพาคุณก้าวไปสู่อีกระดับของ PPV อย่างแน่นอนครับ”
รายละเอียดของ Fortuner GR SPORT ประกอบด้วย ภายนอกดีไซน์ใหม่ตามแบบรถแข่งระดับโลก พร้อมกับสะท้อนความเป็น SPORT Premium PPV ด้วยกระจังหน้าสีดำดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าพร้อมชุดแต่งกันชน ที่ฝังช่องติดตั้งไฟตัดหมอกเอาไว้บริเวณมุมของรถได้อย่างลงตัว ด้านข้างของตัวรถแบ่งแยกสีชัดจนระหว่างท่อนบนและล่างโดยท่อนล่างเป็นสีเดียวกับตัวถังทุกส่วน รวมทั้งที่จับเปิดประตูก็ถูกปรับให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ มีเพียงส่วนที่อยู่เหนือขอบกระจกบังลมด้านข้างขึ้นไปทุกอย่างจะเป็นสีดำ กับชุดล้อแม็กขนาด 20นิ้ว กับสเกิร์ตรองด้านล่างของรถที่จะเป็นสีดำตัดกับสีส่วนใหญ่ของตัวรถ, ด้านท้ายรถ เป็นชุดไฟ LED ไฟเลี้ยวแบบไล่ความสว่างจากด้านในสู่ด้านนอก ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า แบบ one tuch, ติดตั้ง สปอยเลอร์สีดำ ฝั่งไฟเบรกด้วยที่ 3 อยู่บนสุด และมีเสาอากาสศแบบ ครีบฉลาม อยู่บนหลังคาด้านท้ายรถ รอบคันตกแต่งด้วย ทั้งและ แต่งด้วยสัญลักษณ์GR สีขาว บนพื้นแดง-ดำ ไว้ที่ กระจังหน้า, ฝาท้าย, ดุมล้อ, และ คาร์ลิปเบอร์ดสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
ภายในของ ฟอร์จูเนอร์ GR SPORT ออกแบบมาให้สะท้อนถึงความสปอร์ต ด้วยสีสัน ขณะเดียวกันก็เลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม สะท้อนระดับของรถที่เจตนาให้เป็น อเนกประสงค์หรูระดับท็อปในกลุ่มทีเดียว ภายในห้องโดยสารเป็นวัสดุหนังแบบ นุ่มสีดำคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ทั้งคอนโซลหน้า แผงแดชบอร์ท คอนโซลกลาง เบาะนั่งทุกตำแหน่ง ไปจนถึงพนังด้านข้าง โดยเลือกใช้วัสดุต่างกันตามวัตถุประสงค์ กล่าวคือ บริเวณ แผงคอนโซลหน้า ใช้หนังแท้รองด้วยฟองน้ำให้ความรู้สึกนุ่ม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหากเกิดการกระแทก ขณะที่เบาะหนังใช้เป็นหนังแท้เจาะรูเล็กๆ เพื่อช่วยให้นุ่มนวลและระบายความร้อนได้ดีกว่าหนังทั้งแผ่น ส่วนที่เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เช่น ส่วนต่อจากหน้าจอTFT แสดงผลเครื่องปรับอากาศแบบ อัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา เชี่อมไปยังเครื่องเล่นวิทยุ จะมีโลหะสีเงินรมดำทำหน้าที่เพิ่มความหรูหรา เช่นเดียวกับริเวณ ฐานเกียร์ ที่ใช้พราสติกลาย คาร์บอน ไฟเบอร์ ก็มีแผ่นสีเงินรมดำ ทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่ให้รู้สึกกลมกลื่นเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งรถ พวงมาลัย แบบมัลติฟังก์ชั่นรูปตัว T มีเส้นสี แดง คาดขวางที่ตำแหน่งบนสุดเพื่อเป็นมาร์กบอกตำแหน่งของพวงมาลัย เส้นแดงนี้ยังไปสอดรับกับ เส้นด้ายสีแดงที่เย็บเป็นแนวตะเข็บของ แผงคอนโซล, เบาะนั่ง, รวมถึงพื้นที่ต่างๆในรถ แต่งให้ดูสปอร์ตอีกนิดด้วยการ ปักสัญลักษณ์ GR สีขาว บนพื้นแดง-ดำ ไว้ที่ตำแหน่งล่างสุดบนวงพวงมาลัย, ปุ่มPush Start, หน้าจอมิเตอร์ และ ที่หมอนรองศีรษะผู้ขับและผู้โดยสารคู่หน้า
พลังของรถคันนี้มาจากเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2800 cc. ผลิตพลังการขับเคลื่อนได้ถึง 204 แรงม้า ขณะเครื่องยนต์ทำงานสูงสุดที่ 3,400รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อผ่าน เกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด แบบSequential Shift พร้อมมีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยหรือระบบ Paddle shift แรงบิดสูงสุดของรถคันนี้อยู่ที่ 500 นิวตัน-เมตร ขณะเครื่องยนต์ทำงานที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 80 ลิตร, มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดอยู่ที่ 5.8 เมตร, สามารถเลือกขับเลื่อนแบบ 2 ล้อ หรือเลือกขับเคลื่อนแบบ 4WD ผ่านสวิชท์ที่ติดตั้งไว้จุดต่ำสุดของคอลโซลหน้า ใกล้กับกลุ่มของคันเกียร์, ใต้ท้องรถสูงจากพื้น 19.3 เซนติเมตร ช่วยให้กาขึ้นลง ไม่ลำบากจนเกินไปนัก
ช่วงล่าง ด่านหน้าเป็นก้นสะเทือนอิสระแบบ ปีกนกคู่ พร้อม คอยล์สปริง เหล็กกันโครง ส่วนด้านหลัง เป็นแบบ อิสระ โฟร์ลิ้งก์ พร้อมเหล็กกันโครง ช็อกแอบซอร์บเบอร์ของรุ่น GR SPORT ถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Monotube เพื่อให้ตอบสนองการคืนตัวได้ฉับไวมากขึ้น ช่วยให้รถยึดเกาะถนนดีขึ้น โดยเฉพาะการขับบนถนนเรียบ จะนุ่มนวลขึ้นกว่าเดืมอย่างมาก ขณะที่การขับออฟโร้ด ก็จะยึดเกาะถนนได้มั่นคง ไม่เด้งเหมือน Dubletube อีกต่อไป
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Toyota Fortuner ถูกกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ เนื่องจากรถคันนี้ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งาน และความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบกล้องมองรอบคัน, หรือ กล้องส่องจุดอับบนกระจกมองข้าง, ไฟส่องสว่างกลางวัน (Dey time running lights แบบ LED, ไฟรอบคันเป็น LED สำหรับไฟหน้าเป็นระบบปรับสูง-ต่ำได้อัตโนมัติเมื่อเวลาเดินทางหรือ องศาความลาดเอียงของตัวรถ, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลังหากมีวัตถุเคลื่อนตัวผ่าน, ระบบเข็มขัดนิรภัยยึดแบบ3จุดรอบคัน, ถุงลมนิรภัยและม่านนิรภัยถึง 8 ตำแหน่ง, สัญญาณเตือนกะระยะด้านท้ายและทั้ง4มุมติดตั้งบริเวณกันชน, ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก หรือ ABS สามารถกระจายแรงเบรกได้หากรถอยู่ในโค้งหรือ EBD ระบบเสริมแรงเบรก หากต้องการหยุดแบบรวดเร็วหรือ BA, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีหากพื้นลื่น หรือ A-TRC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายกรณีมีการต่อพวงท้าย TSC, ระบบหน่วงเวลา ขณะออกตัวบนทางลาดหรือทางชัน HAC, ระบบเตือนความปลอดภัยก่อนการชน PCS, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA และโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ GOA
การเปิดตัวของ ฟอร์จูเนอร์ ใหม่ นอกจากจะมีรุ่น GR SPORT ที่เป็นรุ่นท็อปสุดแล้ว โตโยต้า ยังเปิดทางเลือกไวให้ผู้ที่ชื่นขอบความแตกต่าง หลายรุ่น เริ่มตั้งแต่รุ่นมาตรฐาน มีการเพิ่มสิ่งที่ผู้ใช้เรียกร้องเพิ่มขึ้นประกอบด้วย ระบบเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวาออกจากกันและ ระบบกล้องมองรอบคัน Pnnoramic View Monitor ส่วนรุ่น Legender นอกจากชุดแต่งในสไตล์หรูหรา แล้ว ยังเพิ่มระบบเตือนขณะถอนหลัง (Rear Cross Traffic Alert ) และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) พร้อมกับ (Toyota Safety Sense)ที่ให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการขับขี่อย่างสูงสุด และเพิ่มความสะดวกสบายด้วย อุปกรณ์เชื่อมต่อ USB Type C 2 ตำแหน่ง
โอกาสเดียวกันนี้ โตโยต้า ได้นำชุดอุปกรณ์ตำแต่ง จากสำนักแข่ง Modellista จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีสไตล์ตกแต่งในแนว หรูหรา สวยงาม ให้เป็นทางเลือกแก่ผู้ชื่นชอบ ฟอร์จูเนอร์ สามารถแต่งเพิ่มได้ทุกรุ่นย่อย โดยอุปกรณ์ในชุดประกอบไปด้วย กระจังหน้า สเกิร์ตหน้า, สกิร์ตด้านข้าง ไปจนถึงสปอยเลอร์ท้ายโดยมีสติกเตอร์ คาดบริเวณด้านข้างรถตลอดแนวลำตัว สะท้อนความแตกต่างให้เห็นเด่ดชัดถึงความเป็นรุ่นแต่งพิเศษแบบ Modellista
สำหรับรายละเอียดรุ่นต่างๆของ ฟอร์จูนเนอร์ประกอบไปด้วย
รุ่น GR Sport มี 1 รุ่นย่อย กับ ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 3 สีประกอบด้วย สีดำ Attitude Black Mica สำหรับ สีแดงหลังคาดำ Emotional Red Black Top กับ สีขาว หลังคาดำ White Pearl CS Black Top จ่ายเพิ่ม 20,000 บาท ส่วนโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย
มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีน้ำเงินเข้ม Dark Blue Mica, สีดำ Attitude Black Mica, สีเงิน Silver Metallic, สีเทา Dark Grey Metallic สำหรับ สีแดง Emotional Red และสีขาว White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท
ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น GR Sport มี1 รุ่น
2.8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,879,000 บาท
ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย
2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท
2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,775,000 บาท
2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,636,000 บาท
2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,566,000 บาท
ฟอร์จูเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย
2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,536,000 บาท
2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,466,000 บาท
2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,351,000 บาท
ทั้งฟอร์จูเนอร์รุ่น Legender และ รุ่นมาตรฐาน สามารถเลือกเพิ่มชุดแต่ง Modellista ได้ในราคา 57,620บาท
###
